สวัสดีจ้ะ~☆
วันนี้เรามาอัปรีวิวหนังที่เพิ่งไปดูมาเมื่อวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ผ่านมาค่ะ! บล็อกเราเคยอัปอะไรที่ตรงกับที่เคยบอกไว้ว่าจะอัปซะที่ไหน
เรื่องที่ไปดูมา เป็นภาคมูฟวี่ (ภาพยนตร์) ของซีรีส์ที่เราติดตามอยู่ช่วงนี้ค่ะ ภาพยนตร์ที่ไปดูชื่อ “มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซนไต : อภิมหาศึกรวมพลซูเปอร์ฮีโร่” ส่วนซีรีส์ที่เราติดอยู่ช่วงนี้คือ มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด (Kamen Rider Ex-Aid)
แม่นค่ะ ตอนนี้เจ้าของบล็อกกำลังติ่งไรเดอร์อยู่ค่า 🎉
เนื่องจากไปดูในฐานะแฟนเกิร์ล เพราะฉะนั้นรีวิวนี้จึงจะสครีมๆ หน่อย อย่างหาสาระไม่ค่อยได้ และเป็นการรีวิวในมุมมองของแฟนมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซดจากฝั่งผู้ชมที่เป็นสาวน้อย แน่นอนว่าจุดโฟกัสเราจะไม่ค่อยเหมือนเด็กและเยาวชนที่ดูซีรีส์นี้ในฐานะซีรีส์ฮีโร่ และไม่เหมือนแฟนๆ สายหนังแปลงร่างทั่วไปที่ดูเอาสาระด้วย
…พูดง่ายๆ คือมาโฮกผู้ชายค่ะ 555555
Review: Kamen Rider × Super Sentai: Chou Super Hero Taisen
ชื่อภาพยนตร์: มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซนไต : อภิมหาศึกรวมพลซูเปอร์ฮีโร่
Kamen Rider × Super Sentai: Chou Super Hero Taisen
วันที่เข้าฉาย: 22 กรกฎาคม 2017
(ไปดูวันที่ 23 กรกฎาคม 2017 โรงพรอมานาด ซีนีเพล็กซ์ รอบ 13:00 น. ซาวนด์แทร็ก มีซับไทย)
**Warning**
– เนื้อหาทั้งหมดต่อจากนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับชม
– บทความนี้เป็นการรีวิวที่ไม่เหมือนรีวิวเสียทีเดียว หลักๆ น่าจะเป็นการสครีม (หวีดร้อง กรี๊ดๆ ระบายความอัดอั้นในใจ) มากกว่า และเราจะไม่พูดถึงเนื้อเรื่องในภาพยนตร์มากนักค่ะ
– เจ้าของบล็อกติดตามแค่มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด ไม่ได้ติดตามคิวเรนเจอร์ กับจูโอเจอร์ รีวิวนี้จึงเป็นความคิดเห็นจากฝั่งแฟนเอ็กเซดแต่เพียงเรื่องเดียว ไม่สามารถให้ความคิดเห็นในส่วนของตัวละครจากเรื่องอื่นๆ ที่มาปรากฏตัวเท่าไหร่
– Spoiler Warning จะพยายามไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์มากนัก ส่วนไหนที่เป็นสปอยล์เราจะถมขาวไว้ แต่จะมีข้อความบางส่วนที่พาดพิงถึงตัวละครและเหตุการณ์สำคัญในมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซดตอนที่ 12 และ 23 ถ้ายังดูไม่ถึง กรุณากดปิดหน้านี้ทิ้งอย่างอ่อนโยนค่ะ
– เจ้าของบล็อกเป็นสาววาย สายออลเอและคิเอ เมนคิริยะ (เอ็กเซด) เพราะฉะนั้นจะสครีมแบบติดฟีลเตอร์สาววายแน่นอนค่ะ ใครที่ไม่ชอบความสัมพันธ์ของคู่ดังกล่าว กรุณาหลีกเลี่ยงและจัดการตัวเองค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้ตามดูซีรีส์ของสายโทคุซัตสึ (หมายถึงหนังแปลงร่างแนวยอดมนุษย์อะไรงี้) นานแล้ว ซีรีส์สุดท้ายที่ติ่งแตกเบอร์แรง คือมาสค์ไรเดอร์อากิโตะ (เมนเรียวจังๆๆๆ) ส่วนที่เหลือก็ตามดูมาเรื่อยๆ จนซีรีส์สุดท้ายที่ได้ดูจนจบคือมาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ค่ะ (มาสค์ไรเดอร์เบลดได้ดูนิดหน่อย แต่โดนสปอยล์ก่อน ใจสลายกับสปอยล์มากถึงมากที่สุด เลยดร็อปไปกลางทาง) เพิ่งจะกลับมาดูไรเดอร์อีกทีก็เอ็กเซดเนี่ยแหละค่ะ
เริ่มดูเอ็กเซดตอนแรกก็ชอบเลย! ← ชอบเล่นเกม เลยอินง่าย
แล้วก็ชอบคิริยะมาก! ชอบคิริยะมาก! ชอบคิริยะมาก!
เราเพิ่งเริ่มดูเอ็กเซดเมื่อประมาณปลายๆ เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาเอง รู้ตัวอีกทีก็ตะบี้ตะบันดู วาร์ปข้ามกาลเวลามาจนทันดูสดพร้อมทางญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นๆ เดือน ก.ค. แล้ว (กลัวตัวเองอยู่เหมือนกันเนี่ย ชีวิตการงานพังไปหมดเพราะหมอไรเดอร์ โฮ T-T) ประจวบเหมาะกับที่ทาง DEXclub.com ประกาศรอบฉายภาพยนตร์ “มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซนไต : อภิมหาศึกรวมพลซูเปอร์ฮีโร่” ขึ้นมาพอดี → [Link]
สำหรับมูฟวี่ภาคนี้ เป็นภาพยนตร์ภาคพิเศษภายใต้ธีม “มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซนไต” (แปลไทยก็คงประมาณ “ไอ้มดแดง ปะทะ ขบวนการห้าสี”) ซึ่งปกติมูฟวี่รวมฮีโร่นี้จะมีทำขึ้นแทบทุกปีอยู่แล้ว ภาคอื่นๆ ก็มีทั้งแบบรวมเฉพาะไรเดอร์ และแบบที่รวมทั้งฝั่งไรเดอร์ทั้งฝั่งเซนไต สลับๆ กันไป สำหรับปีนี้เป็นปีที่เอ็กเซดกำลังฉายอยู่พอดี “มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด” จึงได้รับบทเด่นในมูฟวี่ภาคนี้ ร่วมกับ “ขบวนการอวกาศ คิวเรนเจอร์” ที่เป็นตัวแทนชูโรงจากฝั่งซูเปอร์เซนไตที่กำลังฉายอยู่ในปีนี้เหมือนกันนั่นเอง
ซึ่งในแต่ละปีมูฟวี่รวมฮีโร่แบบนี้จะหาข้ออ้าง เอ้ย! หาเหตุผลในการรวมตัวไรเดอร์ (และซูเปอร์เซนไต) หลายๆ ภาคมาไว้ด้วยกันโดยใช้เหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ก็เพื่อร่วมมือกันปราบวายร้ายแหละ (ระหว่างทางอาจจะมีขัดขากันบ้าง มีฉากแอ็กชั่นสู้กันเองนัวๆ ให้พอดูเพลินๆ แล้วสุดท้ายก็จะร่วมมือกับปราบตัวร้ายแบบฮีโร่ตะลุมบอนอยู่ดี เย่ะ!) สำหรับในภาคนี้ ใช้ “เกม” เป็นเหตุผลให้เกิดการรวมไรเดอร์ขึ้นมาค่ะ
ไปดูเรื่องย่อ (ที่ไม่ค่อยได้บอกอะไร) ได้ทางเว็บของโรงหนัง [Link]
อันนี้เป็นตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับซับไทย
อันนี้คลิปโฆษณาสั้นๆ ของไทย (เสียงบรรยายไทย)
ระหว่างที่เรากำลังสนุกสนานกับซีรีส์มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซดภาคหลัก แก๊งเพื่อนที่ชวนมาดูเอ็กเซดด้วยกันก็ชวนเราไปดูมูฟวี่รวมฮีโร่ภาคนี้
ด้วยคำล่อลวงว่า
“ภาคนี้มีคิริยะซังของเธอด้วยนะ!”
ห๊ะ อะไรนะ? คิริยะซังน่ะเหรอ? คิริยะซังคนนั้นจะกลับมางั้นเหรอ?
ไปค่ะพี่สุชาติ!
ไอ้ที่กล่าวมาเมื่อกี้เราลืมสิ้นแล้ว ภาคนี้เขาจะรวมไรเดอร์กับเซนไตกี่ภาค เคยดูเคยดร็อปไปไหมอิฉันไม่รู้ แต่จุดยืนของอิฉันก็จะไปดูคิริยะซังจอใหญ่ๆ ค่ะ! จากนั้นก็ฝากเพื่อนกดจองบัตร บลาๆๆ จนในที่สุดก็มาถึงวันที่เข้าฉาย
อันนี้โฆษณาฉบับญี่ปุ่น ตัวที่บอกว่าคุโจ คิริยะ จะกลับมาปรากฏตัวในภาคนี้ ปกป้องโลกพร้อมรุ่นพี่ฮีโร่ บลาๆๆๆ เสียงบรรยายในโฆษณาเป็นเสียงคิริยะด้วยนะ (ทำเสียงเรียบโมโนโทน น่าหมั่นไส้อะ 5555) ในมูฟวี่คิริยะซังจะกลับมาจริงไหม เดี๋ยวรู้กัน wwww
พอถึงวันที่ฉายก็รวมกลุ่มกันไปดูในโรงภาพยนตร์ ก่อนไปถึงก็เขินนิดหน่อยที่รู้สึกว่าตัวเองเลยวัยจะดูไรเดอร์กับซูเปอร์เซนไตแล้ว อยู่ๆ ก็ตีตั๋วไปดูเรื่องนี้นี่เหมือนไปแย่งเด็กดูเลย แต่พอเดินเข้าไปถึงเก้าอี้ เฮ้ย ที่นั่งข้างๆ พวกเราก็เป็นผู้หญิงมาดูคนเดียวนี่หว่า อยากหันไปถามว่าชิปไหนคะ?
ที่นั่งข้างหลังก็เป็นแก๊งวัยผู้ใหญ่มาดูกัน สรุปว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ไปดูเหอะ เธอจะไม่โดดเดี่ยว เธอจะมีเพื่อนแฝงตัวอยู่ทุกที่ อย่างน้อยก็ในโรงภาคนี้ที่มีแฟนเกิร์ลเยอะมาก หาได้ต้องกลัวว่าจะแย่งเด็กไม่ เพราะยังไงก็แย่งอยู่ดีอายทำไม ตึ่งโป๊ะ
อะๆ เข้าเรื่องรีวิวเลยดีกว่า
ด้านเนื้อเรื่อง
สำหรับด้านเนื้อเรื่อง ขอบอกว่าสนุกมากกกกกกกกกกก >/////< คือพล็อตมันไม่ได้ดีซับซ้อนเลิศหรูสู้หนังใหญ่ชนโรงอะไรขนาดนั้น แต่มีเหตุมีผลมากพออย่างที่เรื่องเล่าเรื่องหนึ่งควรจะเป็น เนื้อหาน่าติดตามตลอดเรื่อง ถือว่าดูสนุกสำหรับแฟนเอ็กเซดอย่างเราเลยแหละนะ เรียกได้ว่ามันจะเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ในการติ่งไรเดอร์ของเรารอบนี้เลย
เราว่าภาคนี้เรียบเรียงเนื้อหาดีกว่าภาครวมไรเดอร์อื่นๆ ที่เราเคยดูมาด้วย (แต่ประเด็นคือเราดูไม่เยอะเนี่ยสิ อย่าเอาเราเป็นมาตรฐานเลยแล้วกัน 5555) เราชอบที่มีเส้นเรื่องชัดเจนและเนื้อหาแน่นพอที่จะดึงให้เราอยู่กับเส้นเรื่องหลัก แถมสามารถหาข้ออ้าง เหตุผลให้ไรเดอร์กับเซนไตจำนวนมากๆ มาปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องเดียวกันได้ดีมาก ดูแล้วไม่รู้สึกว่าแถ และแน่ใจได้ว่าการปรากฏตัวเช่นนี้จะไม่ขัดใจแฟนๆ ผลงานออริจินัลแน่นอน
เพราะพี่แกให้บรรดาฮีโร่ (ส่วนใหญ่) ที่โผล่มารวมตัวกันในภาคนี้ เป็นฮีโร่ที่ทะลุมิติมาจาก “โลกของเกมรวมฮีโร่” นั่นเองค่ะ
เนื้อเรื่องหลักคือ อยู่มาวันหนึ่ง ยานอวกาศในเกมที่ชื่อ Xevious (มีเกมนี้จริงๆ นะ ลองเอาชื่อไปกูเกิลดู) ก็มาปรากฏบนโลก แล้วเริ่มโจมตีโลกมนุษย์ ทางฝั่งคิวเรนเจอร์พอรู้เรื่องนี้ก็เลยลองไปสู้ดู พอรู้ว่าศัตรูเป็นตัวร้ายในเกมที่ทะลุมาโลกจริง ก็เลยติดตามร่องรอยผู้ต้องสงสัย “ป๊อปปี้ ปิโปะปะโปะ” มายังญี่ปุ่น เป็นสาเหตุให้ได้เจอกับพวกคุณหมอไรเดอร์ฝั่งเอ็กเซดที่ออกมาปกป้องป๊อปปี้ว่า เธอไม่ใช่คนน่าสงสัยสักหน่อย!
ระหว่างที่แก๊งเอ็กเซดกับแก๊งคิวเรนเจอร์กำลังตบตีกันอยู่นั้น ก็มีศัตรูจากโลกเกมบุกเข้ามาในโลกจริงอีกแล้ว ทั้งสองแก๊งเลยยุติการตบตีกันชั่วคราว หันมารับมือกับพวกตัวร้ายในเกมอย่างทุลักทุเล
ในขณะนั้นเอง อยู่ดีๆ ก็มีเหล่าฮีโร่ปริศนาปรากฏตัวขึ้น แถมในกลุ่มฮีโร่นั้นมี คางามิ ฮีโระ (มาสค์ไรเดอร์เบรฟ) อีกคนหนึ่ง มาในชุดดำ ผมเสย มาดมาเฟีย กับคุโจ คิริยะ (มาสค์ไรเดอร์เลเซอร์) ที่น่าจะตายไปแล้วปรากฏตัวอยู่ด้วย (ฉากนี้เลเซอร์โดนไทกะทักด้วย ว่าแกน่ะตายไปแล้วไม่ใช่หรอม พราก อย่าย้ำแรงค่ะพี่ คนดูเจ็บ ;-;)
ฮีโร่ปริศนาคนหน้าเหมือนแก๊งนี้ปรากฏตัวมาช่วยปราบศัตรูอย่างเท่ๆ จากนั้นก็เฉลยว่าพวกเขามาจากโลกของเกมรวมฮีโร่ “พวกฉันก็เป็นฮีโร่เหมือนกันนะ” แล้วก็กลับเข้าเกมไปแบบเท่ๆ
โฮโจ เอมุ (มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด) ในโลกจริงเลยปิ๊งไอเดียว่างั้นเราก็ชักชวนฮีโร่ในโลกเกมมารวมพลังกับฮีโร่ในโลกจริงเพื่อปราบเหล่าร้ายที่กำลังบุกโลกตอนนี้ด้วยกันซะเลยสิ! โดยให้ป๊อปปี้ กับ อามุ (จูโอไทเกอร์ จากเรื่องจูโอเจอร์) เข้าไปชักชวนฮีโร่จากฝั่งโลกเกม แต่พอเข้าไปถึงกลับโดนฮีโระชุดดำคนที่อยู่ในเกมยื่นเงื่อนไขว่าเอมุต้องเข้าไปเล่นเกมแบบแบตเทิลอารีน่าในเกมรวมฮีโร่ให้ชนะก่อน ถึงจะให้ยืมพลังไปใช้สู้ในโลกจริง
และสังเวียนต่อสู้ระหว่างฮีโร่ VS ฮีโร่ ก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมๆ กับที่คางามิ ฮีโระในโลกจริง เริ่มเอะใจถึงอะไรบางอย่างและตัดสินใจย้อนกลับไปสะสางอดีตของตัวเองที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวฮีโระอีกคนและเกมรวมฮีโร่เกมนี้
นี่แหละคือสาเหตุที่มีตัวละครไรเดอร์และเซนไตอยู่ในเรื่องนี้มากมาย (ในโฆษณาเขียนว่ามีฮีโร่มาปรากฏตัวกว่าร้อยคน) เพราะหลายคนในร้อยกว่าคนนั้นเป็นตัวละครที่มาจากโลกเกมรวมไรเดอร์นั่นเอง (ซึ่งหลายๆ คนก็มีบทแค่ตอนสู้กันในอารีน่าเท่านั้นแหละจ้า กระซิก T-T)
เพราะฉะนั้นแฟนๆ ซีรีส์ฮีโร่จึงสบายใจได้ว่าฮีโร่ที่มาโผล่ในเรื่อง แม้จะมีทั้งที่เป็นพันธมิตรของเอมุ และมีทั้งเป็นคู่ต่อสู้กัน ก็เป็นเพียงตัวละครในเกมที่ต้องดำเนินไปตามกฎของโลกเกม ทำให้ตัวละครที่ปรากฏตัวในภาคมูฟวี่ภาคนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องหลัก คนที่ชอบไรเดอร์หรือเซนไตภาคอื่นๆ มาดูก็คงไม่จิ๊ปากขัดใจว่า เฮ้ย ตัวละครนั้นคงไม่ทำแบบนั้น ตัวละครนี้คงไม่ทำแบบนี้หรอก เฮ้ย ทำไมสู้กันเอง ทำไมพอมาอยู่ในภาครวมฮีโร่แล้วทำอะไรขัดๆ กับนิสัยในเรื่องหลักซะได้ ฯลฯ อะไรแบบนี้แน่นอนค่ะ
สำหรับปมหลักของเรื่อง ส่วนตัวแล้วแอบรู้สึกว่าไม่ค่อยแปลกใหม่อะไร (ฮา) บอกได้แค่ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฮีโระและเกี่ยวกับเกมที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนั่นแหละ รอบนี้ไม่ใช่ฝีมือของบั๊กสเตอร์ แต่ก็เกี่ยวข้องกับการข้ามไปมาระหว่างโลกจริงกับโลกเกมค่ะ
เส้นเรื่องโดยรวมไม่ถึงกับเป็นเส้นตรงทื่อๆ หนทางในการไปขอความช่วยเหลือจากฮีโร่ในเกมของเอมุก็ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนเกมตะลุยด่านอะไรขนาดนั้น เพราะในเรื่องยังมีจุดหักมุม มีซ้อนแผน มีเรื่องที่ไม่คาดคิดซ่อนอยู่อีก
ทั้งๆ ที่พล็อตไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่การบิลด์อารมณ์ช่วงเข้าไคลแมกซ์ ตลอดจนเนื้อเรื่องช่วงก่อนหน้าที่สะสมความเข้มข้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดเนื้อหาฝั่งเอมุ ฝั่งฮีโระ ฝั่งป๊อปปี้ และ นากา เรย์ (เฮบิสึไคซิลเวอร์ จากเรื่องคิวเรนเจอร์) ที่ตามมาสมทบ ก็มาบรรจบกันและเฉลยในตอนท้าย พอมันขมวดเข้าหากันในช่วงตอนสำคัญ ก็สามารถส่งให้พล็อตที่ไม่ค่อยแปลกใหม่นี้มัน “ถึงอารมณ์” ได้จริงๆ
คือต่อให้เดาเนื้อเรื่องได้ ต่อให้เบื่อพล็อตนี้แล้ว แต่ถ้าตั้งใจดูจนมาถึงฉากนี้ได้ ยังไงก็ต้องอินแล้วอะ ฮือออ คนเขียนบทวางลำดับเรื่องมาดี๊ดี ;_; ชอบ
สำหรับแฟนเอ็กเซด
เรารับประกันว่าจะต้องชอบมูฟวี่ภาคนี้แน่นอน เพราะเนื้อหาในมูฟวี่นี่แทบจะทำออกมาเพื่อเป็นตอนพิเศษของมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซดภาคหนึ่งแล้วเนี่ย 55555 บทของตัวละครฝั่งเอ็กเซดเด่นมากกก มีเอมุเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก มีฮีโระเป็นตัวละครสำคัญที่กุมกุญแจของเรื่องนี้ไว้ (แฟนๆ ฮีโระจะต้องปลื้มปริ่ม เพราะภาคนี้ฮีโระเด่นมาก) มีป๊อปปี้วิ่งไปวิ่งมาสร้างสีสันให้กับเรื่อง
ไทม์ไลน์ของเรื่องนี้ เมื่อเอาไปเทียบกับเนื้อเรื่องหลักของมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด จะอยู่หลังตอนที่ 23 ไปจนถึงช่วงต้นๆ ของตอนที่ 24 แต่จะเกิดก่อนตอนจบของตอน 24 ค่ะ
เพราะฉะนั้นไม่มีบทประธานคุโรโตะนาจา~ ใครแฟนคลับท่านประธานอาจจะผิดหวังห่อเหี่ยวเล็กน้อย …แต่ในเรื่องมีไรเดอร์เก็มมุ ที่เป็นตัวละครในเกมออกมาให้เอมุสู้หนึ่งยก ก็ดูร่างไรเดอร์เขาไปก่อนแล้วกัน
ในส่วนของคิริยะซังที่เป็นเป้าหมายหลักของเรานั้น …เหอะๆๆๆ โผล่มาเต้นรำ หมุนตัวแปลงร่างหนึ่งโชะ เข้าไปช่วยตะลุมบอนสู้กับปีศาจหนึ่งยกตอนต้นเรื่อง แล้วเขาก็จากไปค่ะ ในอารีน่าตอนประลองกันหลายๆ ทีมก็ไม่มีบทค่ะ
…ค่ะ ชายผู้มีคลิปโปรโมตมูฟวี่ภาคนี้เป็นของตัวเอง ในหนังจริงมีบทแค่นี้แหละค่ะ จากนั้นก็ขอให้ทุกท่านย้อนกลับไปดูคลิปโปรโมตเสียงคิริยะโมโนโทนที่เราแปะเอาไว้ก่อนจะเข้าเนื้อหารีวิวอีกครั้งหนึ่ง ว่าเขาโฆษณาอะไรเอาไว้…
ฮืออออ หนูโดนหลอกกก
นี่เอ็งไม่เห็นใจเด็กน้อยกับแฟนคลับคิริยะซังคนเท่ที่ลงทุนไปดูภาคมูฟวี่เพราะหลงเชื่อโฆษณาเอ็งหน่อยเรอะ! แง บทที่มีในหนังก็มากกว่าในโฆษณาแค่ประโยคเดียวเอง ซึ่งบทน้อยยังไม่เท่าไหร่ เราพอทำใจได้เพราะต้องหารกับไรเดอร์และเซนไตอีกกว่าร้อยคน ได้พูดสักประโยคก็ดีใจแล้ว แต่คิริยะที่เจอในมูฟวี่ก็ดันเป็นคิริยะในเกมซะอีกแน่ะ! (ฮีโระชุดดำในเกมรวมฮีโร่แสดงให้เห็นแล้วว่าคนในเกมกับคนในโลกจริงเป็นคนละตัวตนกัน) ฮือ ชุ้นจะเอาคิริยะซังตัวปลอมไปทำไม เอาตัวจริงมาาา *ร้องไห้ร้องห่ม* (คิริยะซังตัวจริงคงอยากบอกว่า “โดนต้มซะเปื่อยเลยน้า~ XD”)
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ตอนที่คิริยะออกมาน่ะ มีเสียงฮือฮาในโรงด้วยนะ สมกับเป็นคิริยะซังคนเท่ คนฮอตของแฟนๆ ทุกเพศทุกวัยจริงๆ!
แต่สำหรับแฟนๆ เอมุกับฮีโระ คิดว่าน่าจะปริ่มกันไม่น้อย บทเยอะมากจริงๆ ช่วงกลางๆ เรื่องระหว่างที่เอมุเคลียร์เกม พล็อตรองของฮีโระก็เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ มีเนื้อหาที่เกี่ยวพันกับอดีตคนไข้ของฮีโระ และสาเหตุที่โลกเกมโจมตีโลกแห่งความเป็นจริง แถมยังมีฉากปะทะกันของเบรฟกับทรูเบรฟ (หน้าตาคล้ายๆ เบรฟร่างเลกาซี่ในภาคหลัก แต่ชุดรุงรังกว่า) ฮีโระคนในเกมก็เท่มากๆ หล่อ กี๊ด ได้เห็นฝีมือการแสดงของโทชิกิคุง (นักแสดงผู้รับบทฮีโระ) แบบเต็มๆ จัดมาทั้งซีนอารมณ์ ทั้งความเป็นคนคูลขรึมพึ่งพาได้ ทั้งโหมดดาร์กที่พาลหน่อยๆ -/////-
ในส่วนของบทเอมุในมูฟวี่ภาคนี้ก็เท่มากกก! ชอบที่เริ่มต้นเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวร้ายในเกมบุกโลก แล้วก็ให้ฝั่งเอมุค่อยๆ เคลียร์เกมไป ทั้งในอารีน่า ทั้งตอนที่ต้องสู้กับฮีโร่ในเกมทีละตัวจนกว่าจะไปถึงบอส มีการดึงเอากลเม็ดเล็กๆ จากในเรื่องเอ็กเซด ให้เอมุใช้เอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน (สมเป็นเกมเมอร์อัจฉริยะ M จริงๆ!) มีฉากที่ทั้งน่ารัก ทั้งฮา ทั้งน่าเอาใจช่วย เชื่อว่าคนที่ไม่เคยดูเอ็กเซด ถ้าได้เห็นการต่อสู้นี้ น่าจะสนใจดูมาสค์ไรเดอร์ภาคนี้ขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
รวมทั้งฉากสำคัญในตอนท้ายเรื่องหลังจากทุกอย่างสงบลงแล้ว เหลือแค่ปมหลักปมสุดท้าย ในขณะที่ทุกคนเริ่มจนปัญญากับตรงนี้ คำพูดสำคัญของเอมุที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ก็เป็นคำพูดที่เราดูแล้วอดตบเข่าฉาดให้กับคนเขียนบทไม่ได้ “แหม่ ถ้าไม่ใช่เอมุ จะเล่นมุกนี้ไม่ได้เลยนะเนี่ย!”
เพราะการดำเนินเรื่อง และองค์ประกอบเช่นนี้ ทำให้เราคอนเฟิร์มได้เลย ว่ามูฟวี่ภาคนี้คนเขียนตั้งใจเขียนบทมาก เห็นว่าคนเขียนบทภาพยนตร์ไม่ใช่คนที่เขียนบทของเอ็กเซดด้วย ถือว่าเขาทำการบ้านมาแน่นมาก รู้จักจับจุดและเสน่ห์ของตัวละครมาใช้ผูกโยงกับพล็อต ทำให้บทภาพยนตร์เรื่องนี้ ‘ถ้าไม่ใช่เอ็กเซด ก็จะโยนให้เป็นบทของเรื่องอื่นไปไม่ได้เลย’ ด้วยความเอ็กคลูซีฟตรงนี้ ทำให้เนื้อหาทุกอย่างมันกลมกลืนกันไปหมด ซึ่งมันตรงรสนิยมเรามากๆ ให้ตายเถอะ♥
สำหรับไทกะ พี่แกคนนี้มาแบบประหยัดค่าตัวอะ 55555 บทเยอะกว่าคิริยะหน่อยนึง …หน่อยนึงเท่านั้น เกือบจะเรียกได้ว่าพี่แกมาเป็นตัวประกอบเสริมบารมีให้แก๊งเอ็กเซดครบคนเฉยๆ แต่ยังดีที่ได้ออกมาอีกทีตอนท้ายเรื่อง หลังจากแปลงร่างเป็นไรเดอร์สไนป์แล้วก็บู๊ไปยาวๆ ยันจบเรื่อง ก็ระเบิดภูเขาเผากระท่อมตามสไตล์เฮียแกดี อ้อ ถึงจะมีบทพูดไม่เยอะ แต่อุเคียวคุง (นักแสดงผู้รับบทไทกะ) หล่อขึ้นกล้องมากเลยนะ รู้สึกอิ่มบุญที่ได้ดูจากจอใหญ่ๆ หล่อละลายหัวใจ -/////-
และคนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้… พาราโดะคุง♥ คนนี้มีคลิปโฆษณาเป็นของตัวเองเหมือนกับคิริยะด้วย
ค่ะ…เขามีโฆษณาเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้น ชะตากรรมปริมาณบทของน้องพาราโดะก็น้อยนิดพอๆ กับพี่เลเซอร์คนนู้นเลยอะค่า (แงงง โฆษณาหลอกลวงอีกแล้ว!)
แต่รายนี้ยังดี น้องพาราโดะแกออกมาขอเล่นด้วยตอนที่ไรเดอร์กับช็อกเกอร์ตะลุมบอนกันอยู่เพราะเห็นว่าน่าสนุกดี หลังแปลงร่างแล้วก็ได้โดดเข้าร่วมวงบู๊ไปยาวๆ พอๆ กับสไนป์เลยทีเดียว (อย่างน้อยก็ไม่ได้โผล่มาหมุนตัวแปลงร่าง เตะๆ ฟันๆ สองสามทีแล้วหายไปไม่กลับมาเหมือนใครบางคน ;-;) ตอนที่พาราโดะออกมาให้เห็นแค่แขนเสื้อสีม่วงๆ ในโรงก็มีเสียงพึมพำๆ ปนๆ แทรกๆ กับเสียงกลั้นหวีดของแฟนเกิร์ล (ชุ้นรู้…) ก็น้องน่ารักกกกกอะเน้อออ♥
ในส่วนของป๊อปปี้ เราอยากบอกว่าป๊อปปี้บทเยอะมากกก เธอได้บทสำคัญไปตะลุยในโลกเกมด้วย และเธอสวยมากกก สวยทุกช็อต ขึ้นจอใหญ่แล้วน่ารักละลายใจสุดๆ แฟนคลับป๊อปปี้ ปิโปะปะโปะจะต้องเพิ่มขึ้นเพียบแน่นอน (สารภาพว่าพอไปดูมูฟวี่นี้กลับมา ทุกครั้งที่ดูเอ็กเซด เราจะตั้งใจมองพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของป๊อปปี้มากเป็นพิเศษ เด็กๆ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคะ =/////=)
สำหรับแฟนคิวเรนเจอร์
อยากบอกว่า …ทำใจนะคะ 5555 ทั้งแก๊งบทไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ออกมาแต่ละทีได้ซีนอลังการทั้งนั้น นอกจากออกมาต่อสู้ตอนต้นเรื่องที่เล่าไปแล้วก็จะโผล่มาอีกทีตอนสู้กับบอสใหญ่ จัดหนักจัดเต็ม เล่นใหญ่สไตล์เซนไตเลย อ้อ แก๊งคิวเรนเจอร์ในเรื่องนี้เป็นกลุ่มฮีโร่ตัวจริงค่ะ ไม่ใช่ฮีโร่จากในเกม
แต่! ถึงตัวละครอื่นๆ ในคิวเรนเจอร์จะบทไม่เยอะ แต่ก็มีคนหนึ่งที่บทเยอะมาก ได้ซีนเยอะพอๆ กับหมอฮีโระจากเอ็กเซดเลย
คนคนนั้นคือ นากา เรย์ค่ะ มีบทเยอะมากกก! เป็นคนที่เอะใจเรื่องเคสคนไข้ในอดีตของฮีโระ เลยตัดสินใจขอตามเข้าไปในโลกเกมเพื่อตามหาตัวต้นเรื่องที่เป็นคนสร้างและบงการโลกเกมกับเขาด้วย เพราะคิดว่ามีอะไรบางอย่างที่ตนอาจช่วยได้
สำหรับแฟนคิวเรนเจอร์ ถ้าชอบนากา เข้าโรงไปดูบทนากาเชิดชูใจก็คุ้มค่าบัตรแล้วเหอะ เราไม่ได้ดูคิวเรนเจอร์มาก่อน แต่บทนากาก็เอาใจเราไปได้เต็มๆ เลย T^T บทเยอะ แสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้ชัดเจน คนแสดงน่ารัก บทพูดก็เข้มข้น เล่นดีเหลือเกิน ฮึกกก
สำหรับแฟนจูโอเจอร์
ขบวนการสัตว์ป่า จูโอเจอร์ก็เป็นอีกกลุ่มที่เป็นจูโอเจอร์ตัวจริง ไม่ใช่ตัวละครจากในเกมรวมฮีโร่ทะลุมิติมา เรื่องราวฝั่งจูโอเจอร์เริ่มต้นที่ อามุได้รับบาดเจ็บ ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลของพวกเอมุกับฮีโระ (บอกแล้วว่าเอ็กเซดบทเยอะ) พอถามไปถามมาก็พบว่าอามุเป็นหนึ่งในขบวนการเซนไตที่โดนตัวร้ายบุกจูแลนด์ทำให้กลุ่มของตัวเองกระจัดกระจาย จากนั้นจึงอยู่ช่วยเหลือฝั่งไรเดอร์คุณหมอไปยาวๆ ยันจบเรื่อง ในเรื่องนี้อามุก็ไปไหนมาไหนกับป๊อปปี้ราวกับเป็นคู่หูกันด้วย สาวๆ น่ารักมาอยู่ด้วยกันนี่ทำให้กระชุ่มกระชวยดีเหลือเกิน
ในตอนท้ายๆ กลุ่มจูโอเจอร์ก็มีบทเหมือนกันค่ะ แม้จะมีบทไม่มากเท่าอามุ แต่ก็ถือว่าโดดเด่นน่าเชียร์พอๆ กับคิวเรนเจอร์เลยทีเดียว
สำหรับแฟนไรเดอร์และเซนไตภาคอื่นๆ
ดูฉากบู๊เอามันส์ OK! ดูร่างไรเดอร์-วายร้ายช็อกเกอร์/เซนไตแก้คิดถึง OK! แต่ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องให้เสพมากไปกว่าการดูเฉยๆ (ฮา) เพราะพี่แกจะออกมาสู้กันให้ดูอย่างเดียว ยกเว้นแฟนนินนินเจอร์, โกบัสเตอร์ส, เคียวริวเจอร์, มาสค์ไรเดอร์เดนโอ, และมาสค์ไรเดอร์ริวคิ จะได้เห็นตัวละครจากในเรื่องมาเถียงกันตอนเอมุเลือกสมาชิกในทีมไปแข่งในอารีน่า ซึ่งเป็นฉากสีสันของเรื่องเลยทีเดียว ฮามาก ขำจนเหนื่อย เราชอบตอนโมโมทารอสในเกมต่อรองกับเอมุ 55555
สรุป
สนุกค่ะ ถ้าใครเป็นแฟนมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด, คิวเรนเจอร์, จูโอเจอร์, นินนินเจอร์, โกบัสเตอร์ส, เคียวริวเจอร์, มาสค์ไรเดอร์เดนโอ, และมาสค์ไรเดอร์ริวคิ ก็ไปดูเหอะ สนุก ภาคมูฟวี่อันนี้มีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง จบในตัวเอง ไม่ค้างคา เข้าใจง่าย ถ้าอ่านเรื่องย่อที่เราพิมพ์มาแล้วเข้าใจก็ไม่มีอะไรน่างงแล้ว เพียงแค่ว่าถ้าใครดูหลายเรื่องกว่า ก็จะเข้าใจลักษณะนิสัยของตัวละครได้ดีกว่า
อย่างที่ได้บอกไปแล้ว ว่าการที่มีฮีโร่ข้ามเรื่องมารวมกันนับร้อยคน ไม่ทำให้เป็นปัญหาต่อเส้นเรื่องเลย ทำได้ดีมาก ส่วนเรื่องการข้ามไปมาระหว่างโลกจริงกับโลกเกม ให้คิดเสียว่าเป็นแฟนตาซี เพราะในมูฟวี่นี้ให้สาเหตุที่เกิดโลกเกมไว้แตกต่างจากโลกเกมในภาคหลักของเอ็กเซด เพราะฉะนั้นต่อให้ไม่ได้ดูเอ็กเซดก็เข้าใจได้ (ส่วนคนที่ดูเอ็กเซดก็ต้องทำความเข้าใจใหม่ไปพร้อมคนอื่นอยู่ดี)
เนื้อหาโดยรวมแล้วเราว่าโอเคสำหรับให้เด็กดูนะ เนื้อหาส่วนของเอมุคล้ายๆ เล่นเกมต่อสู้กับเกมตะลุยด่านดี ดูฉากบู๊เพลินๆ เอามัน ส่วนพล็อตรองของฮีโระอาจจะเป็นเรื่องนามธรรมไปนิดนึง (เรื่องจรรยาบรรณแพทย์ – การต่อสู้กับอดีตของตัวเอง – การก้าวข้ามเรื่องเสียใจของตัวเอง) แต่เชื่อว่าถึงแม้คนดูวัยเด็กจะไม่สามารถสรุปออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ก็น่าจะใช้ใจเข้าใจความรู้สึกของฮีโระได้ และน่าจะอิ่มใจไปกับบทสรุปของเรื่องได้เช่นกัน
ในส่วนของนากากับป๊อปปี้… สารภาพตามตรงว่าเราขัดใจนิดหน่อย 5555 การแสดงดี บทดี แต่ทัศนคติและสารหลักที่เรื่องต้องการจะสื่อ กลับพูดไม่ค่อยถูกหูเราเท่าไหร่ อาจจะเพราะตอนเราดู เราโยงอาการของคนไข้เคสนี้ของฮีโระเข้ากับโรคทางจิตใจ (เช่น โรคซึมเศร้า) เราเลยแอบคิดว่าการที่นากากับป๊อปปี้เข้าหาด้วยวิธีแบบนี้ ค่อนข้างจะผลักความรู้สึกผิดให้กับคนไข้มากไปนิดนึง ตอนดูเรารู้สึกอึดอัดกับฉากนี้ คิดในใจว่าสองคนนี้คงทำไม่สำเร็จหรอก ไม่อยากให้วิธีแบบนี้ได้ผลด้วย (Spoiler: ซึ่งหนังก็ทำออกมากลางๆ ไม่ถึงกับสำเร็จ ต้องรอฮีโระซึ่งเป็นเจ้าของเคสจริงๆ มาสานต่อ แล้วตบท้ายด้วยคนสดใสแบบเอมุมาสร้างแรงบันดาลใจให้คนไข้อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ถึงจะปลดล็อกปมในใจของน้องคนนี้ได้)
แต่นากากับป๊อปปี้ก็ไม่ผิดนะ 5555 เพราะสองคนนี้ก็คงไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องรับมือยังไง คนหนึ่งเป็นเผ่าไร้อารมณ์ อีกคนก็เป็นตัวละครในเกมแนวสดใสร่าเริง เราคงต้องพูดว่าเรารู้สึกไม่ถูกหูกับ “สาส์นที่ผู้กำกับและคนเขียนบทตั้งใจจะสื่อในฉากนี้” มากกว่า ไม่ใช่ความผิดของตัวละครเลย (แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่ไปตีความแบบนี้เอง ฉากนี้ก็เป็นฉากที่ดีฉากหนึ่งนะ เคยดูรีวิวของคนอื่น เห็นว่ามีการตีความแบบโยงกับกรณีเด็กติดเกมด้วย ถ้ามองแบบนั้นก็จะไม่ขัดใจ XD)
แนะนำมูฟวี่เรื่องนี้เป็น A must สำหรับแฟนเอ็กเซดที่ตามดูตอนพิเศษทั้งหลายมาแล้ว เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้เลยดีกว่า เพราะถ้าไม่ดูภาคนี้ก็เหมือนตามตอนพิเศษของเอ็กเซดไม่ครบ แม้จะมีบางอย่างที่ดูแล้วรู้สึกว่ามันหลุดๆ จากความเป็นเอ็กเซดไปนิดนึง แต่เราว่าถ้าไม่คิดมากก็ถือว่าสนุกดี 55555 ดูได้เพลินๆ (Spoiler: ตัวอย่างเรื่องที่ส่วนตัวรู้สึกว่ามันหลุดๆ เช่น เรื่องทำไมป๊อปปี้ถึงสามารถดึงคนที่ไม่ใช่ตัวละครในเกมเข้าไปยังโลกเกมได้ ทั้งที่ในภาคหลักไม่เคยทำแบบนี้ และคิดว่าไม่น่าจะทำได้ด้วย, เรื่องสาเหตุการกลับมายังญี่ปุ่นของฮีโระ ที่ไม่ตรงกับเรื่องหลัก, หรือแม้กระทั่งเรื่องอดีตของฮีโระ ที่ตอนเราดูเราแอบคิดว่าฮีโระไม่มีทางปล่อยให้เคสนี้เป็นเคสด่างพร้อยในประวัติหน้าที่การงานของตัวเองแน่นอน ถ้ามีคนหายไปต่อหน้า ฮีโระคงสืบต่ออย่างสุดความสามารถ จนกลายเป็นเรื่องยาวได้เรื่องหนึ่งโดยไม่ทิ้งช่วงรอจนมาเจอเอมุในภาคหลักแล้วค่อยมาคลายปริศนาในภาคมูฟวี่หรอก)
อย่าว่างั้นงี้เลย ขนาดเราไปดูมาแล้วก็ยังอยากดูอีกรอบเลยเนี่ย ต่อให้คิริยะซังบทน้อยก็เถอะ แต่เนื้อเรื่องก็เอาอยู่จนอยากดูซ้ำ เสียดายมากที่ฉายจำกัดโรง ; w ; และตอนนี้ก็ลาโรงไปแล้ว หงิง มารอแผ่นไปด้วยกันนะคะ
พูดถึงเรื่องลุ้นให้ทางผู้ถือลิขสิทธิ์ออกแผ่น เราเองก็มาติ่งเอ็กเซดช้าเหมือนกัน เลยไม่ทันได้ดูภาคดร.แพ็คแมนฯ (รวมพล 5 มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ดร.แพ็คแมน) ในโรง เราเข้าใจความรู้สึกคนที่ดูไม่ทัน TT-TT ทุกวันนี้ก็ยังหวังในใจลึกๆ ขอให้ทาง DEX ออกแผ่นภาคดร.แพ็คแมนฯ เวอร์ชั่นไทยทีเถ้อะ หรือเปิดฉายออนไลน์แบบเก็บตังค์ก็ได้ อยากดูแบบถูกลิขสิทธิ์ ฮือ *กอดขา DEX*
สำหรับภาคนี้ ตอนนี้ก็ได้แต่รอให้ทางญี่ปุ่นออกแผ่น และรอให้ทาง DEX ใจดีออกแผ่นภาคนี้มาขายให้หมู่เราเก็บสะสมกันต่อไปอะเนอะ
โดยรวมแล้ว ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกของเราที่มีต่อภาพยนตร์ “มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซนไต : อภิมหาศึกรวมพลซูเปอร์ฮีโร่” ที่ไปดูมาค่ะ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเสียส่วนใหญ่เลย แต่ก็หวังว่าคนที่มาอ่านจะได้อะไรกลับไปบ้าง หรือคนที่ยังไม่ได้ดู ถ้าอ่านแล้วเกิดอยากดูขึ้นมา ก็มาช่วยกันกอดขา DEX ให้เขาขายแผ่นด้วยกันนะคะ T-T ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ก็มาดูเอ็กเซดเป็นเพื่อนเราเถอะ หงุง *กอดขา* คนที่ดูเรื่องนี้แล้ว ถ้ามีความคิดเห็นอย่างไร มาคุยกันได้นะคะ ^^
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
เจอกันบทความหน้านะคะ!☆
ขอขอบคุณ
• ค่าย DEX ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแปลไทย ทำให้เราได้ดูผู้ชายของเราจอใหญ่ๆ ในโรงภาพยนตร์ ฮือ มันฟินมากจริงๆ ค่ะ
• ปปต. กับ แหวน ที่ช่วยจองบัตร ช่วยพาเราไปดูเปิดหูเปิดตา กับประสบการณ์เข้าโรงดูหนังรวมไรเดอร์เซนไตแบบติ่งๆ เป็นครั้งแรก
• พี่จิ คุณเนม ผู้พาเอ็กเซด (จริงๆ คือเรียวขาของท่านประธาน) มาสู่เรา จากทีแรกคิดว่าจะตามมาดูท่านประธานคนหล่อเฉยๆ ไปๆ มาๆ กลายเป็นตกหลุมลึกมาก ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ ค่ะ ขอบคุณที่แนะนำนะคะ
• และสุดท้าย ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ☆
หืม?
อะไรนะ? รีวิวนี้เหมือนมีอะไรไม่ตรงปกเหรอ?
ชื่อบทความบอกว่าเป็น [Review+Scream] รีวิว “มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซนไต : อภิมหาศึกรวมพลซูเปอร์ฮีโร่” ฉบับแฟนเกิร์ล (ผู้สครีมอย่างบ้าคลั่งเยี่ยงติ่งตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่รู้) มีรีวิวแล้ว แต่ยังไม่มี “สครีมอย่างบ้าคลั่งเยี่ยงติ่งตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่รู้” ใช่มั้ย?
กดดูในนี้เลยค่ะ ↓↓↓
สำหรับสาววายและแฟนเกิร์ล *มีสปอยล์บางฉาก ถ้ายังไม่ได้ดูไม่ควรอ่านค่ะ*
เนื่องจากเป็นการไปดูในฐานะแฟนเกิร์ล กับเพื่อนแฟนเกิร์ลอีกสองราย เราจะขาดการหวีดผู้ไปไม่ได้ เราไม่ได้ไม่หวีด เราแค่เก็บไว้มากรี๊ดทีเดียวเป็นข้อๆ ตรงนี้
• ฉากเปิดตัวฮีโระ มาถึงประโยคแรกก็ขำแล้ว ตลก ฮือ ขำจนเพื่อนที่นั่งข้างๆ (ปปต.) ต้องเอามือมาจับเรียกสติเรา ฮือ คูมหมอน่ารักจังเลยข่าส์
• เอมุน่ารักกกก ป๊อปปี้ก็น่ารักกก ภาคนี้มันเอมุป๊อปปี้สุดๆ (มีบทร่วมกันเยอะ) ชอบตอนที่คุณหมอสามคนออกโรงปกป้องป๊อปปี้ที่โดนพวกคิวเรนเจอร์โจมตีเพราะเป็นผู้ต้องสงสัย ตอนที่เอมุพยายามเจรจากับลักกี้ (พระเอกคิวเรนเจอร์) ก็สมเป็นเอมุดีจัง อยากเป็นพันธมิตรไว้ก่อน
• คิริยะบทน้อย… อะไรนะ? ข้างบนพูดไปแล้วเหรอ ฮือ เราอยากบ่นอีก คิริยะบทน้อยจริงๆ ร้องไห้ ;-; จริงๆ เราแอบไปอ่านสปอยล์ในเว็บต่างประเทศมาแล้ว เห็นเขาเขียนสั้นๆ ว่าโผล่มานิดหน่อย อ่านแล้วก็พอเข้าใจ ว่าเขาหมายถึงว่าคิริยะมาแค่ให้หายคิดถึง แต่ไม่คิดว่าจะมาแค่นี้ว้อยยย โฮ เจ้าคนหลอกลวง 5555 ทำไมคนแบบนี้ถึงมีคลิปโฆษณาเป็นของตัวเองยะ เพราะเป็นคิริยะคน (เสื้อลาย) ดอกสินะ หลอกลวงแม้กระทั่งโฆษณามูฟวี่ คนใจร้ายยย!
• คิริยะในเกมไม่มีส่งสายตาอาลัยรักให้กับเอมุใดๆ ทั้งสิ้น แห้งแล้งที่สุด แต่เราจะให้อภัย เพราะเห็นว่าภาคนี้มีภาคต่อเป็นมูฟวี่ฉายออนไลน์บนเว็บ (Kamen Sentai Gorider) ที่สาววายรีวิวว่าคิเอหนักมาก
• แต่ฉากคิริยะแปลงร่าง หมุนตัวสวยมาก จะเป็นลม อยากดูอีกรอบชะมัด
• ไทกะคนเด๋อ 5555 ตลกกก โผล่มาถึงก็สั่งๆๆ พูดๆๆ ปะทะคารมๆๆ แล้วพี่ก็สู้เลย ตลกความไทกะตรงนี้ พี่เหมือนอยากบู๊ไม่ไหวแล้ว เลือดร้อนเฟว่อค่ะหมอ ร่างสไนป์ก็หล่อมากกก กรี๊ด ร่างขุ่นสไนป์ก็เท่ทุกฉากเลย ร้องไห้ ฟิน มีความสุข ได้เห็นเขาจอใหญ่ๆ ฮือ คนอะไรเท่จัง
• คู่หูบาลานซ์กับนากาน่ารักกก บาลานซ์น่ารักกก ชอบตุ้มหู (?) ตาชั่ง มันจะแกว่งๆ ตลอดเวลา ดึงดูดสายตามาก เสียงพากย์ก็เฮฮาร่าเริงไปเรื่อย ชอบจัง 5555
• นากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารักนากาน่ารัก
• บาลานซ์ก็น่ารัก แต่ในมูฟวี่บทน้อย ดูแล้วแอบก้าวลงหลุมบาลานซ์นากาเบาๆ คงต้องตามไปดูในเรื่องหลักของคิวเรนเจอร์แล้วล่ะ (อ้าว มาดูเอ็กเซด แต่โดนเซนไตตกเฉยเลย)
• นากากับฮีโระบทเยอะจนรู้สึกว่าควรโปรโมตไปเลย ว่าเป็นมูฟวี่สำหรับสองพระรองของเรื่อง รับรองกลุ่มเป้าหมายแฟนเกิร์ลกับเด็กๆ สายนิยมพระรองจะต้องมาดู
• มีฉากห้องของฮีโระตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากทวิตเตอร์คนญี่ปุ่น (ที่ปปต.แปลมาให้อ่านอีกที) ใครเมนฮีโระควรดูเพื่อเก็บข้อมูลห้องคุณชายหมอนะคะ
• ฮีโระชุดดำดูแรกๆ ก็เฉยๆ แหละ แต่มองไปนานๆ เริ่มหลง จนถึงตอนท้ายที่ยืนกับเอโตะคุง โอย ออร่าผู้ปกครองรุนแรง หล่อวววว์ ฟฟฟฟฟฟ //v\\
• ตอนจบมีฉากฮีโระคนในเกมยิ้ม!!!!!!!!!!! ยิ้ม!!!! โบกมือ! ทักทาย! บ๊ายบาย! ฮีโระยิ้มมมมมม ถึงจะเป็นตัวปลอมก็เถอะ แต่ก็ยิ้มมมม *ร้องกรี๊ดตะโกนกู่ก้องขึ้นฟ้า*
• ไม่เคยดูนินนินเจอร์ แต่คนสีฟ้าที่อยู่ทีมเอมุน่ารัก (คงไม่ถึงกับตามไปดูแบบคิวเรนเจอร์ รับรู้ว่าน่ารักพอ)
• เคยดูเดนโอแค่ไม่กี่ตอน ชอบโมโมทารอส ตอนมาดูมูฟวี่อันนี้ก็ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก
• พรี่โซลด้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มายเมนนนนนน //v\\ สารภาพว่าทีแรกจำพรี่ไม่ได้ พรี่โต (?) ขึ้นเยอะเลยนะคะ จนเขาควักสัญญาออกมาก็รู้สึกเอ้อ มุกนี้น่ารักดี ถ้าเราดูต้องเป็นสเปกเราแน่เลย— จนเขาหยิบการ์ดแปลงร่างตัวเองขึ้นมา พ้มถึงเพิ่งนึกออกว่าเค้าคือเมนของเราคนนั้นในริวคินั่นเอง กรี๊ด /แฟนเกิร์ลประสาทช้า
• คิดว่าฮิโรกิคุง (นักแสดงผู้รับบทเอมุ) ต้องติ่งแตกแน่ๆ เลยที่ได้เข้าฉากกับพรี่โซลด้า (แต่จะดีใจมากกว่าถ้าเป็นริวคิสินะ…)
• ชอบที่ระหว่างคู่อื่นประลอง เอมุออกมาเตร่นอกสนามแข่งได้ด้วย เรียลมาก ให้ฟีลงานกีฬาสีดี
• แกร๊! ภาคนี้มันฮิเอมาก! มัน ฮิ เอ มาก!! (หรือจะมองเป็นเอฮิก็ได้มั้ง) ฮีโระหล่อมากกก ดูเป็นคุณหมอเงียบขรึมพึ่งพาได้ เดินหน้าแก้ไขปริศนาและตามสางอดีตตัวเองด้วยตัวคนเดียว จนสุดท้ายตามเข้าไปถึงโลกเกมแล้วไปช่วยฝั่งนากากับป๊อปปี้ได้พอดี ในขณะที่ฉากหน้าของเรื่องเหมือนเอมุเป็นตัวแบกใช่มั้ย ในเวลาเดียวกันการกระทำของฮีโระก็คล้ายๆ ช่วยเอมุไปอีกทางอย่างลับๆ อยู่เหมือนกันแหละ กรี๊ดดด นี่มันก๊าววววว
• ตอนฮีโระสองคนปะทะกัน บทพูดดี๊ดี เสียแต่ว่าแรกๆ เราดันตามไม่ทันว่าฮีโระคนไหนเป็นคนพูด (ดันพูดกันตอนแปลงร่างแล้วอีกแน่ะ) ฉากสู้ของเบรฟกับทรูเบรฟโคตรมัน ชอบท่าไม้ตายของเบรฟ ตอนท้ายหลังสู้เสร็จทรูเบรฟอย่างเท่ กี๊ด♥
• อฟช.ดูจะชอบเล่นมุก คนหนึ่งมีสองร่าง มุกตัวฉันอีกคนหนึ่ง อะไรทำนองนี้ดีนะคะ มารัวๆ ตั้งแต่ภาคหลักแล้ว ภาคนี้ฮีโระที่ดูปกติสุดๆ ก็ได้มีฮีโระอีกคนหนึ่งสมใจแฟนๆ สายนี้ (…)
• ฉากที่เอมุบอกว่าผมไม่นับถือคุณเป็นหมอ มีความปากไวจนน่าตีให้ก้นลายไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภาคนี้ดีตรงที่เอมุขอโทษฮีโระชัดถ้อยชัดคำ …และโดนฮีโระตอกกลับหน้าหงาย (สม)
• แต่ฉากขอโทษน่ารัก กรี๊ด
• ตอนพาราโดะโผล่มามัน ฟหฟ่กฟา่ฟาสหก่ดาส่หดสฟห่สดวฟหกเ่ด่ส่าสเ่ฟาส เหลือเกิน พอดีวันที่ไปดูเป็นรอบวันอาทิตย์หลังจากทางญี่ปุ่นฉายตอนที่ 40 พอดี ติ่งพาราโดะที่นั่งข้างๆ เลยกหฟดส่สา่ฟส่ดฟสาด่สฟรำส่สทอสาฟ่รสหนักมาก เพราะมันฟ่ดกสาฟ่หก่หฟกา่ไำร่นำดาอหแอาหานดาหกนจริงๆ คราวนี้เป็นตาเราแล้วที่ต้องจับเพื่อนให้ตั้งสติ
• ตอนจบน่ารักฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมว เอมุน่ารักน่าตี ลักกี้โวยวายดีเหลือเกิน
• โฮว มันดีค่ะมันดี มันคือตอนพิเศษมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซดที่ดีต่อใจค่ะ แม้เมนเราจะออกน้อยมากก็ตาม แต่มันก็ดีงามในฐานะหนังรวมฮีโร่เรื่องหนึ่ง ควรค่าแก่การดูสำหรับแฟนเกิร์ลเอ็กเซดทุกประการ
• ส่วนใครทีมคุณชาย ทีมฮิเอ เอฮิ น่าจะฟินระเบิดไปแล้ว
• เอาจริงๆ เราชอบการใช้พล็อต “โลกเกม” ของมูฟวี่ภาคนี้มาก 55555 รู้สึกว่าเข้าใจคิดดี เป็นเหตุผลที่ทำให้มีฮีโร่หลายๆ คนปรากฏตัวเยอะๆ และสามารถทำให้ตีกันเองมันๆ นัวๆ ได้อย่างมีเหตุผล
• ตรงจุดหักมุมในช่วงกลางเรื่องก็ทำเอาเหวอนิดๆ เหมือนกัน (แต่ทำใจไว้แล้วว่าหมอนี่น่าจะตัวร้ายแหละ แค่ไม่คิดว่าจะทำกันแบบเน้ 5555) ยอมใจคนเขียนบทมาก
• ถ้ามองว่ามูฟวี่ภาคนี้คือแฟนฟิคที่เอาคนอื่นมาเขียนบทเกี่ยวกับเอ็กเซด ก็ถือว่าเป็นแฟนฟิคที่คล้ายอฟช.มาก ทำการบ้านมาดีมาก มีจุดเพี้ยนนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็อยู่ในกรอบที่รับได้ และที่สำคัญคือ “สนุก” นี่สิ
• กับคนที่คิดว่าจะเข้าโรงไปดูหน้าคิริยะ แล้วได้เห็นพี่ไม่ถึง 20 วิฯ แถมเคยดูแต่เอ็กเซด เรื่องอื่นไม่ได้ดู แต่หนังก็ยังยึดเราไว้อยู่กับที่ (ถ้าไม่นับว่าโรงภาพยนตร์มันลุกออกไปเดินเล่นตรงไหนระหว่างหนังฉายไม่ได้อยู่แล้ว 5555) จนออกมาเขียนบทความรีวิวชมขนาดนี้ได้ ก็ต้องสนุกมากพอให้เราอยากชวนทุกคนมาดูนั่นแหละ
• เพราะฉะนั้นมาดูเอ็กเซดกันเถอะค่ะ ส่วนภาคมูฟวี่นี่รอแผ่นหรือรอฉายออนไลน์ไปด้วยกันเนอะ