[Review] รีวิวซีรีส์บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาคฉงฉี่ฯ Reunion: The Sound of the Providence 《重启之极海听雷》 ฉบับแฟนเกิร์ล (ที่พยายามจะคีปลุคไม่ขี้ชิป)

สวัสดีจ้ะ~☆

เพิ่งดูซีรีส์ บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน หรือเต้ามู่ปี่จี้ ภาคใหม่ที่กำลังฉายถึงตอนล่าสุดมาค่ะ ก็เลยอยากมารีวิว + จดบันทึกความคิดที่นึกได้ระหว่างดู เอาไว้อัพประจาน เอาไว้อ้างอิงในอนาคต หรือเอาไว้มาย้อนดูว่าเคยรู้สึกยังไงก่อนจะไปถึงตอนจบและเฉลยของมหากาพย์นิยายและซีรีส์เรื่องนี้ (ว่าแต่มันจะมีใช่มั้ยคะ ตอนจบกับเฉลยน่ะ)

ภาคใหม่ที่ว่านี้ ชื่อภาคว่า 《重启之极海听雷》 (ฉงฉี่จือจี๋ไห่ทิงเหลย) หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Reunion: The Sound of the Providence มักจะเรียกย่อๆ กันว่า ภาคฉงฉี่ฯ แฟนต่างชาติบางคนก็เรียกว่าภาค Restart (= คำแปลของคำว่า ‘ฉงฉี่’)

ซึ่งถึงชื่อจะหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ แต่ก็ไม่ใช่การรีบูต (ทำใหม่) แต่อย่างใดค่ะ ก็เป็นภาคต่อนั่นแล แต่ที่ใช้ชื่อแบบนี้เพื่อสื่อถึงการกลับเข้ามาสู่วงการขุดสุสานครั้งใหม่ของอู๋เสีย ถือเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ หรือ Restart นั่นเอง

ลำดับการดูและอ่านเป็นดังนี้ บันทึกจอมโจรแห่งสุสานภาคหลัก (นิยาย 10 เล่ม/หนังสือการ์ตูน/เว็บซีรีส์ชื่อ The Lost Tomb) → ภาคทิเบตจั้งไห่ฮวา (มีเว็บโนเวล/หนังสือการ์ตูน/ฉบับนิยายกำลังรอรีไรต์) → ภาคซาไห่ (มีเว็บโนเวล/หนังสือการ์ตูน/ฉบับนิยายกำลังรอรีไรต์/เว็บซีรีส์ชื่อ Sha Hai) → ภาคสิบปี (มีเว็บโนเวล/ฉบับนิยายออกรวมเล่มแล้ว) → ตอนพิเศษราชานักตก (เป็นตอนพิเศษกรุบกริบลงในเน็ต เป็น Intro ก่อนเข้าสู่ภาคฉงฉี่ฯ/อยู่ในเล่มเดียวกับภาคสิบปี) → ภาคฉงฉี่ฯ (มีเว็บโนเวล/กำลังจะออกรวมเล่มนิยาย/มีเว็บซีรีส์ฉายอยู่ ณ ปัจจุบัน)

***ที่เรียงให้ดูนี้ยังไม่รวมตอนพิเศษอื่นๆ เช่น ตอนพิเศษตรุษจีน ที่ หนานไพ่ซานซู (ผู้เขียน) จะเขียนมาลงให้อ่านเล่นๆ ทุกปีในช่วงตรุษจีน และเรื่องสั้นต่างๆ ที่ผู้เขียนเวิ่นทิ้งเวิ่นขว้างตามโซเชียลนะคะ นอกจากนี้ เราก็ไม่ได้เอาซีรีส์ “เก้าสกุล” มารวมในลำดับการอ่าน/ดูนี้ด้วย เพราะเป็นไทม์ไลน์ที่สามารถตามแยกกันได้แม้จะเป็นจักรวาลเดียวกันค่ะ***

ภาคหลักดีเลิศเมากาวขนาดไหน คงไม่ต้องแนะนำกันแล้ว (ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงแนะนำให้ลองซื้อนิยาย “บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน” มาลองอ่านดูค่ะ) รีวิวนี้เราจะมีพูดถึงแต่ภาคต่อ ซึ่งก็คือ “ภาคฉงฉี่ฯ ฉบับเว็บซีรีส์” หรือละครออนไลน์เท่านั้นค่ะ

Review: DMBJ Web Series ‘Reunion: The Sound of the Providence’

ชื่อซีรีส์: 重启之极海听雷
Reunion: The Sound of the Providence

วันที่เริ่มฉาย: 15 กรกฎาคม 2020
จำนวนตอน: 32 ตอน (ซีซันที่ 1)

(ณ วันที่รีวิว 28 กรกฎาคม 2020 ฉายถึงตอนที่ 10 สำหรับผู้ชมทั่วไป และฉายถึงตอนที่ 16 สำหรับผู้ชม VIP มีซับไทย/อังกฤษ/จีน ฯลฯ)

 

ลิงก์ดูบันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาค Reunion: The Sound of the Providence :
www.iq.com/play/2ffkws2vkdd (ดูฟรี ถูกลิขสิทธิ์)
www.monomax.me/title/102890_Reunion:TheSoundoftheProvidence.html (มีพากย์ไทย ถูกลิขสิทธิ์)

 

**Warning**
– เนื้อหาทั้งหมดต่อจากนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับชม
– Spoiler Warning บทความนี้จะพยายามเขียนไม่ให้สปอยล์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์มากนักเพื่อให้คนที่อยากรู้ข้อมูลซีรีส์ภาคนี้มาอ่านได้คร่าวๆ ค่ะ แต่อาจมีบางส่วนจำเป็นต้องกล่าวถึงบ้าง หากไม่อยากรู้อะไรเลยก่อนดู รบกวนอย่าเพิ่งอ่านบทความนี้นะคะ
– เจ้าของบล็อกติดตามนิยายเป็นหลัก ยังไม่ได้อ่านนิยายภาคทิเบต ซาไห่ และฉงฉี่ฯ (แต่อ่านภาคสิบปี กับตอนพิเศษราชานักตกแล้ว) และไม่ได้ดูซีรีส์ภาคอื่นเลยนอกจากซีรีส์ The Lost Tomb ซีซันแรก (นำแสดงโดยหลี่อี้เฟิงและหยางหยาง) ค่ะ
– เจ้าของบล็อกเป็นแฟนเกิร์ล ชิปผิงเสีย พั่งพาน เฮยซู เฮยหย่า/เฮยฉู่ (หนุ่มบอดสาวใบ้) จะรีวิวแบบมีไบแอสของชิปเปอร์แน่นอนค่ะ ใครที่ไม่ชอบความสัมพันธ์ของคู่ดังกล่าว กรุณาหลีกเลี่ยงและจัดการตัวเองค่ะ
– มีภาพน่ากลัวๆ ตามสไตล์เต้ามู่ฯ ในบทความนี้นะคะ

 

มาค่ะ ภาคนี้เป็นเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของอู๋เสีย ซึ่งจะต่อเนื่องจากตอนพิเศษราชานักตกโดยตรงเลย ในนิยายตอนพิเศษราชานักตกจะจบลงที่อู๋เสียได้รับ SMS ข้อความปริศนาทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นข้อความจากอาสามที่หายสาบสูญไปตั้งแต่เล่มท้ายๆ ของนิยายภาคแรก

จุดเริ่มต้นเรื่องของฉงฉี่ฯ ฉบับซีรีส์กับฉงฉี่ฯ ฉบับนิยายจะต่างกันอยู่นิดหน่อย ตรงที่นายน้อยอู๋เสียในฉบับนิยายฉงฉี่ฯ จะเริ่มต้นด้วยการสืบหาเรื่องของอาสามจากข้อความที่ได้รับมาในท้ายตอนพิเศษราชานักตกเลย ในขณะที่ อู๋เสียในซีรีส์ฉงฉี่ฯได้รับการจ้างวานให้ไปดูหลุมแห่งหนึ่งที่น่าสงสัยว่าจะเป็นสุสานโบราณก่อน (ในซีรีส์จะปรับเซตติ้งให้อาสามกับนายน้อยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณ ไม่ใช่โจรสุสานเหมือนในนิยาย) จากนั้นค่อยกลับมารื้อบ้านแล้วเจอโทรศัพท์เก่าที่มีข้อความของอาสามส่งมาหาค้างอยู่

จากนั้นเนื้อเรื่องจะดำเนินไปคล้ายกันแล้ว คือออกเดินทางเพื่อตามหาอาสามจากเบาะแสในโทรศัพท์ โดยที่อู๋เสียก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอาสามยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

***แต่ต่อจากตรงนี้ไปจะเหมือนนิยายมากมั้ยก็ไม่รู้แล้วจ้า~ เพราะได้อ่านนิยายภาคนี้แค่ 4 บท จากทวิตเตอร์ของ คุณเบียร์ อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี (ผู้แปลบันทึกจอมโจรแห่งสุสานภาคหลัก และหนังสือการ์ตูนภาคทิเบต) ที่แปลฉงฉี่ฯ ฉบับเว็บโนเวลให้แฟนๆ ทดลองอ่านกัน ถ้ายังไงคนที่อ่านนิยายมาแล้วงดสปอยล์นิยายลงในคอมเมนต์นะคะ***

เพราะฉะนั้นจุดที่จะรีวิวต่อแต่นี้ไปก็คือส่วนที่มาจากซีรีส์อย่างเดียวและจะไม่เทียบกับฉบับนิยายฉงฉี่ฯ เลยแม้แต่น้อยค่ะ

 

ด้านเนื้อเรื่อง

ปริศนาในภาคนี้ เป็นการ “ถมหลุม” ที่ขุดทิ้งไว้ของภาคเก่าๆ เรื่องการหายตัวไปของอาสาม ซึ่งจะถมหลุมได้มิดหรือไม่ อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปนะคะ แต่ที่แน่ๆ คือระหว่างที่ดู เราก็นับหลุมใหม่ๆ ที่คุณหนานไพ่ซานซูขุดเพิ่มมาเฉพาะในภาคนี้ได้หลายหลุมแล้ว ทำไมเขาเป็นคนแบบนี้…

แต่ถึงจะไม่เคยดูภาคเก่าก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะตอนต้นเรื่องได้ปูพื้นฐานเกี่ยวกับการหายตัวไปของอาสามและเริ่มแนะนำตัวละครที่สำคัญใหม่หมดแต่แรกเลย และตัวละครในปริศนาที่เกี่ยวข้องกับอาสาม ส่วนใหญ่จะเป็นตัวละครใหม่ที่เพิ่งปรากฏชื่อในภาคนี้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคนดู/คนอ่านเก่าหรือคนดูใหม่ ก็จะได้เริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับปริศนานี้ไปพร้อมๆ กันในภาคนี้ค่ะ

เริ่มต้นมา เส้นเรื่องจะโฟกัสที่กลุ่มสามเหลี่ยมเหล็ก อู๋เสีย นายอ้วน และจางฉี่หลิง ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องในช่วงที่ตามหาเบาะแสของอาสามสักพัก แล้วจึงเริ่มแนะนำตัวละครใหม่ (แต่หน้าเดิมจากภาคนิยาย) อันได้แก่อารองและเฮยเสียจื่อ

จากนั้นเส้นเรื่องจะแตกออกเป็นสองเส้น คือเส้นเรื่องผจญภัยสุดระทึกเคล้าน้ำตาของอู๋เสีย และเส้นเรื่องการผจญภัยสุดระทึกเคล้าน้ำตาลของนายเฮยเสียจื่อ (…)

ฉากผจญภัยของฝั่งอู๋เสียตื่นเต้นมาก กับดักและปริศนาในสุสานให้บรรยากาศคล้ายๆ บันทึกจอมโจรแห่งสุสานฉบับนิยายภาคแรกๆ มีบรรยากาศการตีกันและแบกกันไปมาระหว่างสามเหลี่ยมเหล็ก อู๋เสีย นายอ้วน และจางฉี่หลิง รวมทั้งฉากคลานในอุโมงค์โจรสุดคลาสสิก เพิ่มเติมคือกลไกในสุสานภาคนี้โหดขึ้นสมน้ำสมเนื้อกับความสามารถของตัวละครทุกคนที่พัฒนาขึ้นมามากจากภาคก่อนๆ นอกจากนี้ยังมีตัวละครใหม่ชื่อ “หลิวซั่ง” มาคอยปั่นป่วน (หัวใจคนดู) แบบที่ทำให้เกลียดไม่ลงเลยค่ะ

หลิวซั่ง ตัวละครใหม่ในภาคฉงฉี่ฯ (จริงๆ ก็ไม่ใหม่มาก มีบทในตอนพิเศษภาคซาไห่แล้ว แต่เพิ่งมาเปิดตัวเข้าร่วมทีมในภาคนี้ค่ะ)

ซึ่งขึ้นชื่อว่าบันทึกจอมโจรแห่งสุสาน หรือเต้ามู่ปี่จี้ งานกาวก็ไม่มีขาด จางฉี่หลิงกับอู๋เสียยังคงมีโมเมนต์กันอย่างต่อเนื่องและกลืนไปกับเส้นเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีนายอ้วนเป็นหม่อมแม่คอยเป็นกำลังใจให้ลูกๆ (…) เพิ่มเติมคือมีโมเมนต์กันถี่มาก คนดูดูไปกรีดร้องไป ฮือ ใช่สิ พวกนายผ่านการพิสูจน์รักแท้สิบปีแล้ว ใช่สิ สนิทกันแล้วเส้! แง้ๆๆๆๆ ชอบ (ตรงนี้คนที่ไม่เคยดูหรืออ่านภาคอื่นมาก่อนอาจจะงงก็ได้ ว่าแก๊งสามคนนี้มันคบกันแบบไหนหว่า 55555)

เป็นภาพที่อธิบายความสัมพันธ์ของสามเหลี่ยมเหล็กได้ดีค่ะ ชอบสีหน้าของทั้งสามคนมาก
นายอ้วนตลก อู๋เสียมองตรง เมินโหยวผิงมองอู๋เสีย

ในขณะที่ฝั่งเฮยเสียจื่อหรือนายแว่นดำ เป็นเนื้อหาแนวภารกิจจารกรรมข้อมูล ที่นายเฮยเสียจื่อต้องแฝงตัวเข้าไปในหมู่บ้านต่างถิ่นเพื่อหาข้อมูลที่เชื่อมโยงกับสุสานฝั่งที่นายน้อยอู๋เสียบุกไป ถูกดูดลงไป เป็นความระทึกที่คู่ขนานไปกับเส้นเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก (ที่นายเฮยไม่ยอมรับว่าตัวเองรักสักที 5555) ระหว่างนายเฮยเสียจื่อกับสาวใบ้คนเมืองที่บังเอิญมาทำงานในหมู่บ้านเดียวกัน ถึงจะเป็นเรื่องราวความรัก (มั้ง) กับตัวละครใหม่  แต่ก็เป็นการใส่ตัวละครใหม่ลงมาได้อย่างกลมกลืนมาก ดูแล้วไม่รู้สึกว่าน่ารำคาญหรือยัดเยียดเลยค่ะ น่ารักมากด้วยซ้ำ ดูไปเขินไป กี๊ดดด!

นอกจากจะได้ลุ้นเรื่องราวความรักของนายแว่นดำแล้ว ยังมีโบนัสพิเศษ คือลุ้นว่าชะตากรรมของสาวเจ้า ซึ่งดันมาปลูกต้นรักอยู่ในผลงานของหนานไพ่ซานซู ผู้ขึ้นชื่อด้านการฆ่าตัวละครหญิง จะมีชีวิตรอดไปจนจบซีซันหรือไม่อีกด้วย! เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่มีชิปนายเฮยเสียจื่อกับคนอื่นอยู่ในใจแล้วก็ยังไม่ต้องเหี่ยวค่ะ ซีรีส์ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพผู้หญิง ฮือๆ แงๆ

เฮยเสียจื่อ กับตัวละครใหม่ “สาวใบ้” ที่บังเอิญต่างคนต่างมาทำงานที่หมู่บ้านเดียวกัน

บรรดามุกตลกในเรื่อง แม้จะเปลี่ยนจากการขุดสุสานเพื่อขโมย ไปเป็นการขุดสุสานเพื่อปกป้องและอนุรักษ์วัตถุโบราณ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของแก๊งขุดสุสานคนสถุล สุดเถื่อน มุกของหนานไพ่ซานซูก็ยังชั่วร้ายไม่เสื่อมคลายค่ะ (ชม) มีหลายฉากเลยที่จะได้ขำก๊ากจนน้ำตาไหล พร้อมกับอุทานว่ากล้าเล่นมุกนี้มาได้ยังไง! แล้วก็วนมาใช้ซ้ำ ขยี้แล้วขยี้อีก จนได้แต่ยกนิ้วให้ทั้งน้ำตา 5555

ในส่วนของเนื้อหาหลัก เราว่าทำออกมาให้เข้าใจง่าย แม้ไม่เคยดูหรืออ่านภาคอื่นๆ มาก่อนก็สามารถสนุกได้ (แต่ไม่รู้ว่าจะมีภูมิต้านทานกับมุกสไตล์เต้ามู่ฯ กันมั้ยนะคะ อันนี้แล้วแต่คนจริงๆ 55555) จะมีบางตอนที่อ้างอิงถึงตัวละครในภาคเก่าๆ บ้าง แต่ก็มีอธิบายในเรื่องพอเป็นพิธีอยู่ค่ะ (จริงๆ แกเนียนขายภาคเก่าค่า เหมือนได้ยินเสียงแว่วมาว่า “ถ้าสงสัยก็ไปซื้อนิยายมาอ่านซิจ๊ะ 😆” อยู่ตลอดเวลา)

ในฐานะคนที่ตามนิยายมาก่อน การที่มีบทให้พูดถึงตัวละครในภาคเก่าๆ ทำให้บรรยากาศของเรื่องขลังและรู้สึกว่าภาคนี้เชื่อมโยงกับจักรวาลเต้ามู่ฯ ได้สมจริงมากขึ้นเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะการเอ่ยถึงตัวละครสำคัญๆ ที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกับพวกอู๋เสีย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปรากฎในเรื่องตัวเป็นๆ แต่แค่การที่ตัวละครยังคงคิดถึงและพูดถึงก็ทำให้รู้สึกได้ว่านี่คือการให้เกียรติตัวละครเก่าๆ ได้มา “Reunion” ในโลกของฉงฉี่ฯ อย่างแท้จริงค่ะ

 

ด้านตัวละคร

ด้วยความที่หนานไพ่ซานซูนั่งแท่นอำนวยการเองและเขียนบทเอง จึงแน่ใจได้ว่า “บท” ของตัวละครที่ใช้ในเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่ตรงตามคาแรกเตอร์ไม่บิดพลิ้ว ที่เหลือก็อาจจะมีจุดแตกต่างกันขึ้นกับการตีความตัวละครของนักแสดงและผู้กำกับ

ในภาคนี้จะได้เห็นมุมมองที่มีมิติมากขึ้น ทั้งอู๋เสียที่โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สุขุมขึ้นกว่าเดิม เสี่ยอ้วนที่อ่อนไหว พรั่งพรูความในใจที่คาดไม่ถึงออกมา จางฉี่หลิงโหมดเศร้าซึม โหมดหงุดหงิด รวมทั้งเฮยเสียจื่อในเวลาที่เปราะบาง

เรียกได้ว่าอะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็นในภาคนี้ค่ะ 😭😭😭 (แต่บางอย่างก็ไม่อยากเห็นค่าาาา) ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทั้งหมดนี้เป็น (1) ส่วนพิเศษที่ใส่เพิ่มเติมเข้ามาเฉพาะในฉบับซีรีส์ หรือ (2) เป็นพัฒนาการตัวละครตามต้นฉบับในนิยายอยู่แล้ว …อันนี้ไม่ทราบเพราะยังไม่ได้อ่านนิยาย หรือ (3) ภาพตัวละครในหัวของผู้เขียนเป็นแบบนี้มาตลอด เพียงแต่ปกติฉบับนิยายจะเล่าผ่านมุมมองของอู๋เสีย จึงทำให้รายละเอียดบางอย่างตกหล่นไป พอนำมาทำเป็นซีรีส์ที่เห็นภาพทั้งหมดจึงสามารถเล่าได้รอบด้านมากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่จะคิดตีความกันได้เลยค่ะ

ยังไงก็ตาม สำหรับเรา เราคิดว่าภาคนี้เป็นขุมทรัพย์ของแฟนๆ ที่เราจะได้รู้จักตัวละครขวัญใจของเราผ่านการเล่าเรื่องในมุมมองที่แปลกตาและหลากหลายมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ตัวละครเหล่านี้มีมิติและมีความเป็นมนุษย์ขึ้นมาก และจะทำให้ตกหลุมรักพวกเขายิ่งกว่าเดิมแน่นอนค่ะ

 

ด้านการแสดง

ในส่วนของการแสดง ต้องยกนิ้วให้หลงเกอ หรือ คุณจูอี้หลง (นักแสดงผู้รับบทอู๋เสีย) ที่แสดงเป็นอู๋เสียออกมาได้เหมือนกับในนิยายมากกก! และการแสดงของหลงเกอก็ละเอียดยิบๆๆ ทุกการเคลื่อนไหวเป็นอู๋เสียทั้งหมด สามารถแสดงสีหน้าและอารมณ์อันซับซ้อนของอู๋เสียที่ออกมาได้อย่างดี รวมทั้งหลายๆ ฉากที่ต้องปรับอารมณ์เร็วมาก หลงเกอก็ทำได้ดีทั้งหมด หนูรักเขา! 😭❤️🤟

คุณเฉินหมิงเฮ่า (นักแสดงผู้รับบทนายอ้วนหวัง) ก็เป็นนายอ้วนที่เป็นนายอ้วนจริงๆ เลยค่ะ ไม่มีตรงไหนติดขัดหรือตะขิดตะขวงใจสงสัยว่าจะไม่ใช่นายอ้วนเลยค่ะ ทุกการกระทำของเขาเหมือนนายอ้วนที่หลุดออกมาจากหนังสือตัวเป็นๆ และฉากบู๊ ฉากบาดเจ็บเขาก็แสดงออกมาได้สมจริงมาก ในเวลาที่ต้องรับบทบ้าๆ บอๆ ก็แสนน่าร้ากกก

คุณหวงจวิ้นเจี๋ย (นักแสดงผู้รับบทจางฉี่หลิง) ในช่วงแรกๆ เราจะเอ๊ะๆ นิดหน่อย ว่าเขาเล่นบทจางฉี่หลิงได้ล้นเกินไปรึเปล่า ไม่ค่อยชินกับจางฉี่หลิงที่ยิ้มง่าย แสดงอารมณ์เยอะๆ ซึ่งก็ไม่แน่ใจนิดนึงว่านี่คือพัฒนาการตัวละคร หรือเป็นที่การตีความตัวละครของนักแสดงที่ต่างจากเรา แต่พอดูไปสักพัก ถึงตอนที่ลงสุสาน ก็พบว่าในการแสดงสีหน้าเพียงเล็กน้อยของจางฉี่หลิง กลับทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าอันนี้คือจางฉี่หลิงตอนโมโหนะ อันนี้ตอนเศร้านะ อันนี้ตอนดีใจนะ ฯลฯ ซึ่งพอดูไปนานๆ แล้วดันรู้สึกว่าน่ารักชะมัด OTL และในการแสดง “น้อยแต่มาก” ของนักแสดงนั่นเอง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาแสดงออกทางสายตาได้เก่งมาก โพสท่าก็เท่ ดูไปสักพักก็ถูกจางฉี่หลิงคนนี้ตกเข้าแล้วละค่ะ

ด้วยความที่ดันเจี้ยน เอ้ย! สุสานใหม่ของภาคนี้มีความโหดหินทมิฬชาติอยู่ไม่น้อย มีหลายจุดที่ท้าทายฝีมือการแสดงของนักแสดงสามเหลี่ยมเหล็กมาก ไม่ว่าจะฉากปีนป่าย ฉากที่ต้องช่วยเหลือกันสามคนเพื่อให้ผ่านแต่ละจุดไปได้ หรือแม้แต่ฉากที่ต้องตัดสลับหลายๆ อารมณ์ ซึ่งทั้งสามคนก็แสดงออกมาได้ดีเยี่ยม เป็นอีกจุดที่เหนือความคาดหมายมาก สำหรับงานแสดงบนเว็บซีรีส์ที่ฉายให้ดูฟรีแบบนี้ เราประทับใจในภาคนี้มากจริงๆ ค่ะ

ตัวละครอื่นๆ ก็แสดงกันได้ดี ค่อนข้างชอบการแสดงของสาวใบ้ สามารถแสดงสีหน้ากลั้นน้ำตาได้เทพมาก ส่วนนักแสดงผู้รับบทเฮยเสียจื่อก็ได้โชว์สกิลในฉากที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นในภาคนี้ (ขออุบไว้ว่าเป็นอะไร รอไปค้นพบในเรื่องเองนะคะ)

นักแสดงในบทอื่นๆ ก็ดีค่ะ แต่เนื่องจากสกรีนไทม์ไม่เยอะมาก รวมทั้งเราก็ไม่ค่อยได้โฟกัสที่การแสดงของตัวละครอื่นได้มากพอ จึงขอข้ามไป และไม่ขอคอมเมนต์อะไรนะคะ

 

ด้านภาพ & เพลง

ภาพ สำหรับภาพและเทคนิคการถ่ายทำที่ใช้ เราว่าสุสานภาคนี้สมจริงมาก ซีจีก็ดี ไม่ลอยเหมือนเต้ามู่ฯ ภาคอื่นๆ การตัดต่อก็เข้าใจง่าย (แม้จะแอบเห็นซีนกระโดดและมุมภาพไม่สอดคล้องกันบ้างนิดนึง)

มีข้อเสียนิดหน่อย คือภาพมืดจังค่า เห็นความหล่อของตัวละครไม่ค่อยชัดดด เพราะแสงน้อยฉากต่อสู้เลยจะงงหน่อยๆ ว่าใครทำอะไร รวมทั้งใช้เทคนิคเหวี่ยงกล้องโกงความตายในฉากบู๊บ่อยมาก ทำให้ฉากต่อสู้ในบางท่วงท่าของตัวละครไม่ค่อยชัดเจน ยอมรับค่ะว่าอยากเห็นเค้าหล่อในทุกท่วงท่า

อันที่จริง พร้อปในฉากทำดีมากเลยนะ แต่ไม่รู้อีท่าไหน พอถ่ายออกมาเสร็จผ่านซีจีแล้วมืดจนมองไม่ชัด อดเห็นความสมจริงที่ทำมา เสียดายๆ

อันนี้ภาพตัวอย่างค่ะ
(↓↓↓ **Warning** ข้างล่างมีรูปศพและมอนสเตอร์ในสุสานนะคะ เปิดตอนกลางคืนระวังสะดุ้ง ถ้ากลัวก็ไถข้ามไปเลยค่ะ)

จะเห็นได้ว่ารายละเอียดที่ออกแบบไว้ชัดมากๆ เลย ไม่ก๊องแก๊ง แต่พอมาอยู่ในเรื่องแล้วดันไม่ค่อยเห็นเสียอย่างนั้น น่าเสียดายมากๆ!

เพลง สำหรับเพลงประกอบ ในเรื่องมีทั้งซีนดราม่าเรียกน้ำตาและซีนน่ารักกุ๊กกิ๊ก พอถึงฉากทำนองนี้ปุ๊บ เพลงก็จะมาทันที แน่นอนว่ารวมทั้งโมเมนต์ระหว่างอู๋เสียและจางฉี่หลิงของเขาด้วย ซึ่งก็ตามสไตล์เต้ามู่ฯ ที่ทำแบบนี้มาตั้งแต่ภาคแรกซีซันแรกแล้ว (ไม่เบื่อหรอกค่ะ แต่อาย แง้ 5555)

เราเพิ่งดูไป 16 ตอน ยอมรับว่ายังไม่ติดหูทั้งเพลงประกอบและเพลงพื้นหลังที่ใช้ในเรื่อง แต่มีเพลงคาแรกเตอร์ซองก์ที่ใช้อินเสิร์ตในเรื่อง (เพลงเต็มต้องไปหาฟังเอง) เพลงหนึ่งที่ดีมากๆ เพราะช่วยให้เข้าใจความคิดของอู๋เสีย คือเพลงนี้ค่ะ

ปกติเราจะชินกับการอ่านนิยายที่เป็นมุมมองของนายน้อยอู๋เสีย อู๋เสียในนิยายคิดอะไรอยู่ คนอ่านจะรู้แทบทั้งหมด แต่พอเป็นซีรีส์ที่เล่าด้วยภาพ เราที่เป็นคนดูจึงไม่รู้ว่าระหว่างแต่ละเหตุการณ์อู๋เสียเขาคิดยังไง พอได้ฟังเพลงนี้แล้วก็กระจ่างขึ้นค่ะ

…กระจ่างด้วย เศร้าด้วยค่ะ (/me ร้องไห้เหมือนหมา)

นอกจากนี้ยังมีเพลงของจางฉี่หลิง เพลงของนายอ้วน เพลงของสามเหลี่ยมเหล็ก เพลงของหลิวซั่ง กำลังทยอยออกมาเพื่อโปรโมตซีรีส์ระหว่างที่กำลังออนแอร์ รอติดตามกันได้ทางเวยปั๋วออฟิเชียลของซีรีส์ได้ค่ะ

 

สรุป

บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาคฉงฉี่ฯ เป็นภาคที่ควรค่าแก่การดูอย่างยิ่งสำหรับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบจักรวาลบันทึกจอมโจรแห่งสุสาน หรือเต้ามู่ปี่จี้ค่ะ และคนที่ไม่เคยดูหรืออ่านเรื่องราวภาคก่อนๆ ก็ยังสามารถสนุกไปกับเรื่องนี้ได้ เพราะมีการปูพื้นฐานที่จำเป็นเอาไว้ในเรื่องแล้วค่ะ (แต่ถ้ายังอยากเข้าใจลึกๆ ก็แนะนำให้อ่านนิยายให้ครบก่อนอยู่ดี)

ด้วยบรรยากาศการเล่าเรื่องที่ถอดมาจากนิยายเป๊ะๆ และการแสดงที่เฉียบคมของนักแสดงในเรื่อง ตลอดจนมุกใหม่ๆ และสุสานใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยตีพิมพ์มาก่อน (ยกเว้นคนไปอ่านนิยายฉบับออนไลน์มาก่อนแล้ว) จึงรับประกันความตื่นเต้นแปลกใหม่ไม่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีคุณหนานไพ่ซานซู ผู้เขียนนิยายเป็นคนควบคุมการผลิตตลอดจนเขียนบทเอง จึงทำให้เราสามารถดูได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล ว่าเนื้อหาหรือตัวละครจะถูกดัดแปลงมากเกินไปจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้ เพราะอะไรที่คุณหนานไพ่ซานซูว่าดี เราก็ว่าดีค่ะ (กร๊าก)

ทั้งนี้อาจจะมีหลายๆ จุดที่ตัวละครแสดงออกต่างออกไปจากในนิยาย รวมทั้งการดัดแปลงรายละเอียดบางอย่างเพื่อให้สามารถออกอากาศได้ ถ้าผู้ชมสามารถยอมรับการปรับเปลี่ยนตรงนี้ได้ ก็สามารถสนุกไปกับเนื้อหาของภาคนี้แบบไม่คิดอะไรมาก เสมือนเป็นการ Restart ที่สดใหม่ได้อย่างบันเทิงใจค่ะ โดยส่วนตัวแล้วชอบมากๆ ค่ะ

…จริงๆ คือต่อให้ตรงไหนไม่เหมือนนิยายบ้าง แต่ถ้าคนเขียนบอกว่าโอเค ก็แสดงว่าการปรับเปลี่ยนอยู่ในจุดที่เจ้าของผลงานยอมรับได้ แฟนๆ อย่างเราว่าไงว่าตามกันค่ะ 👌

แถมให้ค่ะ อยากลงรูปเฉยๆ ไม่มีเหตุผลเป็นพิเศษ เพราะจางฉี่หลิงหล่อมากค่ะ อยากให้โลกรับรู้

 

ไปดู บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาคฉงฉี่ฯ Reunion: The Sound of the Providence แบบถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง:
– แอปฯ และเว็บ iQIYI  : www.iq.com/play/2ffkws2vkdd

มีซับไทย/อังกฤษ/จีน
ลงให้ชมสัปดาห์ละ 4 ตอน (วันจันทร์, อังคาร, พุธ, พฤหัสฯ วันละ 1 ตอน) ฟรีสำหรับผู้ชมทั่วไป
และสัปดาห์ละ 6 ตอน (อังคาร, พุธ, พฤหัสฯ วันละ 2 ตอน) สำหรับผู้ชม VIP

– แอปฯ และเว็บ MONOMAX มีพากย์ไทย : www.monomax.me/title/102890_Reunion:TheSoundoftheProvidence.html

 

ช่วงหาเศษหาเลย: ถ้าผู้อ่านท่านไหนใจดี และยังไม่มียูสเซอร์สำหรับดู iQIYI สามารถช่วยสมทบ VIP ให้เราฟรี 5 วัน (ส่วนคนที่สมัครผ่านลิงก์นี้จะได้ VIP ไว้ดูเองฟรี 3 วัน) ด้วยการสมัครยูสเซอร์ iQIYI ผ่านลิงก์แนะนำของเรา ที่ลิงก์นี้ → สมัคร iQIYI ค่ะ …ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าได้จริงมั้ย แต่ก็แปะไว้เผื่อได้ 5555

 

แล้วเจอกันบทความหน้านะคะ!☆

 

ปล. ข้อมูลส่วนใหญ่ โดยเฉพาะลำดับการดูแต่ละภาค เราเขียนจากความจำค่ะ ถ้าตกหล่นตรงไหนไปสามารถแจ้งได้ทางช่องคอมเมนต์ในบล็อกนี้ หรือแจ้งในโซเชียลของเรา (Facebook หรือ ทวิตเตอร์) ได้เลยนะคะ จะรีบทบทวนและแก้ไขโดยเร็วค่ะ

Leave a comment